BUSINESS IDEAS [-6-] 8 ไอเดีย ทำให้ธุรกิจอาหารแบบเดิมไม่เหมือนเดิม

8 ไอเดีย ทำให้ธุรกิจอาหารแบบเดิมไม่เหมือนเดิม

___________________________________________

การเปิดร้านอาหาร เป็นไอเดียที่เราก็คิดว่ามันเดิมๆ ไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ และที่สำคัญก็คือ เรื่องของอาหารยิ่งแปลกใหม่อาจจะไม่ได้ทำให้ยิ่งขายดีก็ได้ เพราะอาหารบางอย่างคนก็ชอบแบบเดิมๆ มากกว่า เพราะเรามั่นใจว่ามันปลอดภัยและคุ้นเคยมากกว่า แต่เราจะทำอย่างไรให้เราแตกต่างจากร้านอื่นๆ ทั่วไปล่ะ ลองมาดูไอเดียที่แสนจะธรรมดาจากบางอย่างเดิมๆ ที่เราเคยเห็น แต่ก็ทำให้ร้านของเราดูไม่ธรรมดาได้ ลองมาดูกันว่าทำอะไรได้บ้าง

1. ขายอย่างเดียว ให้รู้ว่าอร่อยแน่

ทุกวันนี้เราจะเห็นว่า เมนูอาหารที่เราเห็นในร้านอาหารตามสั่งบางเมนูกลายมาเป็นเมนูเดียวที่ร้านขาย อย่างร้านผัดกระเพรา ที่ตอนนี้เราจะเห็นกันมากขึ้นว่าร้านนี้ขายผัดกระเพราอย่างเดียวนะ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเห็นแล้วก็เกิดความคาดหวังได้เลยว่า ร้านนี้ต้องทำผัดกระเพราอร่อยแน่นอน หากวันหนึ่งอยากกินผัดกระเพรา แล้วมีร้านขายผัดกระเพราอย่างเดียวกับร้านที่มีหลายเมนู คนส่วนมากก็มักจะเลือกร้านที่ขายแต่กระเพรา เพราะคิดว่าถ้าร้านมั่นใจว่าขายเมนูเดียวแล้วรอด ย่อมอร่อยแน่นอน แต่ว่าแค่กระเพราก็แตกออกได้เป็นหลายเมนูแล้ว สามารถเลือกครีเอทได้หลากหลาย ทั้งแบบดั้งเดิม แบบรวม แบบอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงเมนูเครื่องเคียงหรือท็อปปิ้ง ก็เพิ่มได้อีก เรียกได้ว่า ขายอย่างเดียว แต่ไม่ใช่เมนูเดียวแน่ๆ ถ้าเริ่มต้นแบบอย่างเดียวไปเลยก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร และหากต้องการขยายเพิ่มขึ้น ก็สามารถเปิดเพิ่มอีกก็ย่อมได้ เพราะประสบการณ์จากร้านแรกเรามีแล้ว หรืออยากให้เมนูเด่นขึ้นมาก็สามารถเลือกเมนูแนะนำขึ้นมาได้ ว่าแม้เราจะขายหลายอย่าง แต่มีสิ่งที่เรามั่นใจได้ว่าต้องอร่อยแน่นอน หรือเมนูขายดีแบบนี้ก็ได้ ช่วยให้คนส่วนมากที่มีปัญหาระดับชาติอย่าง “วันนี้กินอะไรดี” เลือกเมนูแนะนำได้ไม่ยากเลย ที่สำคัญเราเองก็สามารถสต็อกวัตถุดิบได้ง่ายมากขึ้นด้วย

2. แพงสุด ใหญ่สุด

ข้อนี้เป็นเหมือนการสร้างภาพจำให้กับร้านอาหารของคุณ ถึงแม้อาหารจะมีราคาที่แพงที่สุด แต่มันกลับทำให้เป็นสิ่งที่น่าจดจำ บางร้านทำเมนูที่มีราคาหลักพันหลักหมื่นต่อจาน แม้ว่าจะมีคนสั่งน้อย แต่คนจำร้านเราได้แน่ๆ แต่ส่วนนี้เราเองก็ต้องมั่นใจด้วยว่า พร้อมที่จะเสิร์ฟเมนูนี้จริง ๆ และวัตถุดิบที่ใช้ควรเป็นสิ่งที่เราใช้ทำอาหารเป็นปกติ เช่น ปกติเราขายกระเพราจานละ 40 บาท อาจจะเพิ่มเมนูกระเพราถาดยักษ์ 100 บาทก็ได้

3. ทำเมนูให้น่าสนใจ

เมนูอาหาร เป็นสิ่งที่ลูกค้าจะต้องมองก่อนสั่งอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเมนูที่ให้ตอนนั่ง หรือเป็นเมนูที่เป็นป้ายหน้าร้าน รวมไปถึงเมนูออนไลน์ สิ่งสำคัญคือ การจัดเรียง อะไรอยู่หน้า อะไรอยู่หลัง รูปภาพก็สำคัญเช่นกัน เราจะเห็นได้ว่าหลายคนสั่งอาหารเฉพาะรายการที่มีรูป คนที่สั่งได้ไม่จำเป็นต้องมีรูปก็มี แต่หากมีรูปก็จะยิ่งดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคมากขึ้น อีกอย่างการตั้งชื่ออาหารให้คนสนใจก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนสนใจร้านอาหารของเราเช่นกัน รวมไปถึงการบรรยายอาหารด้วย โดยเฉพาะการขายแบบออนไลน์ การบรรยายให้คนรู้ว่ารายการนี้คืออะไร? มีรายละเอียดอย่างไร? หรือจะบรรยายแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็ได้ ยิ่งจะทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกใกล้ชิดหรือเป็นกันเองกับทางร้านได้ด้วย

4. ภาชนะโดนใจ

ภาชนะแนวเดียวกัน คือ กล่องโฟม แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราเห็นต่างประเทศมีกล่องใส่อาหารที่ดูสะดวก สะอาด และน่ารับประทานมากขึ้น ก็ทำให้เริ่มมีการใช้ภาชนะใส่กลับบ้านหลากหลายรูปแบบ ทั้งเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม กล่องข้าวเหมือนหนังญี่ปุ่น ก็เก๋ไปอีกแบบ ดังนั้น หากเราคิดว่าต้นทุนพอรับได้ การเปลี่ยนภาชนะก็สามารถทำให้เราเพิ่มมูลค่าให้กับอาหารของเรามากขึ้นอีกด้วย รวมถึงภาชนะอาหารที่ทานในร้านก็เช่นกัน เราจะเห็นได้ว่าภาชนะบ่งบอกถึง ระดับของอาหาร ราคา ประเภทของอาหาร เช่น ถ้าเราเข้าไปกินอาหารในโรงแรมหรู แล้วถูกเสิร์ฟอาหารมาด้วยจากพลาสติก ช้อนส้อมบางๆ โดยคิดราคาระดับโรงแรม แม้ว่าอาหารจะพรีเมี่ยมขนาดไหน แต่ก็ทำให้อาหารดูไม่แพงอย่างที่ควรจะเป็นเลย ในทางกลับกัน หากเราเลือกจานกระเบื้องราคาแพง เพื่อใส่อาหารพื้นบ้าน ก็น่าจะดูไม่เหมาะสมเหมือนกัน และยังทำให้ลูกค้าไม่ได้เกิดความคุ้นเคยด้วย ดังนั้นการเลือกภาชนะให้เหมาะกับประเภท ราคา ของอาหารก็จะทำให้อาหารของเราสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

5. ให้อาหารมีเรื่องราว

เจ้าเดิม เจ้าเก่า มักจะนำมาใช้กับอาหารท้องถิ่น ขนม ของฝาก หรืออาหารปกติที่เรากินกัน เพราะมีหลายร้านที่ขายแบบเดียวกัน ทุกร้านจึงอยากที่จะเป็นเจ้าเก่า เจ้าเดิมกัน เพราะดูแล้วน่าเชื่อถือ ใครๆก็อยากกินอาหารต้นตำหรับกันมากกว่า ถ้าเราจะเพิ่มมากไปกว่านั้น ก็สามารถนำเรื่องราวเข้ามาเพิ่มสีสันก็ได้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้มากขึ้น

6. โน้ตเล็กๆ ได้ใจสายเดลิเวอรี่

กระดาษโน้ตเล็กๆ ที่แนบมากับอาหารเมื่อคนรับเปิดออกมาตั้งแต่ก่อนกิน ก็รู้สึกดีก่อนแล้ว เป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่บางร้านก็ทำ บางร้านก็ไม่ทำ แต่ถ้าทำได้ก็เพิ่มความเอ็นดูให้กับลูกค้าได้ สมมุติว่าเกิดปัญหาความผิดพลาดอะไรขึ้น เรื่องที่น่าจะทำให้โมโห ก็อาจจะทำให้เบาลงได้ในบางกรณีด้วย เหมือนกับเราส่งยิ้ม เวลาคนที่อารมณ์ดีกินอาหารก็มักจะเพิ่มความอร่อยได้ด้วยเช่นกัน นอกจากกระดาษโน๊ตคำพูดน่ารักๆ แล้ว อาจจะมีอะไรแถมให้ได้ ด้วยต้นทุนไม่สูง หากทำได้โดยที่ไม่กระทบต้นทุนนักก็สามารถทำได้ เช่น ลูกอมเล็กๆ ขนม หรืออาจจะเสริมการตลาดเข้าไปด้วย

7. กิจกรรมสนุกให้คนจำ

กิจกรรมที่จะเห็นกันมาก ก็โยงมาจากข้อ 2 คือ จานใหญ่ จัมโบ้ กินหมด ฟรี!!! ส่วนนี้ก็อาจจะมีคนมาท้าประลอง ถ้ากินหมดเราให้ฟรีก็จริง แต่สิ่งที่ได้คือ การแชร์ คอนเท้นท์การตลาด ให้มีคนพูดถึง บอกต่อกัน แม้ว่าจะไม่มาท้าลองแต่ก็อยากมากินมาเห็นเอง หรือเป็นสมาชิก อย่างการให้คูปองสะสมก็นิยมใช้กันมาก เป็นเรื่องที่เมื่อคนเรามีสมาชิก ต้องสะสม แทนที่จะกินร้านอื่นก็มาที่ร้านเรา บางทีอาจจะแนะนำเพื่อนมากินด้วยก็มี กิจกรรมตามเทศกาลต่างๆ ทั้งลดแลกแจกแถมแบบโปรโมชั่นเสริมเข้าไป หรือจะเป็นการจัดตกแต่งร้าน ภาชนะ โน้ต เพื่อเติมเข้าไปได้ ก็สร้างสีสัน สร้างการแชร์ การบอกต่อ ได้อย่างดีเลยทีเดียว

8. เสิร์ฟเป็นเซ็ต เข้ากัน ได้ใจไปเลย

บางครั้งเราก็อาจจะต้องคิดแทนลูกค้าบ้าง บางทีคนเราก็อยากกินหลายๆ อย่างแต่จะให้สั่งทุกอย่างก็ไม่ไหว หากไม่ลำบากด้านการผลิตจนเกินไป การจัดเป็นเซ็ตให้ นอกจากจะช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเพิ่มมูลค่าให้กับอาหารอีกด้วย อย่างอาหารญี่ปุ่นเราจะเห็นว่ามีแบบเบนโต๊ะ เป็นกล่องอาหารเซ็ต ที่น่ารักไม่เบา อาหารไทย เกาหลี และอื่นๆก็ทำได้เช่นกัน อะไรที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีที่นิยม เช่น แกงเขียวหวาน+ไข่เค็ม+น้ำซุป หรือ แกงเหลือง+ไข่เจียว เป็นต้น หรือจะเป็นพวกขนม เครื่องดื่ม ก็นิยมนำมาจัดเซ็ตกัน หรือหากต้องการให้ลูกค้ามีทางเลือกก็สามารถให้เลือกได้ ยิ่งแบบเดลิเวอรี่ในแอพพลิเคชั่นก็สามารถทำให้เลือกได้เช่นกัน