เปิด 9 ไอเดีย ธุรกิจรวยเงียบ

___________________________________________

เคยเห็นไหมคะ บางคนก็ไม่เห็นออกไปทำงานอะไร แต่ก็มีเงินกินใช้จ่ายอยู่ทุกวัน บางคนร่ำรวยมีเงินซื้อของใช้ดี ๆ มีรถมีบ้าน บางคนเข้าไม่ถึงก็คิดลบ ๆ ไปเลย แต่รู้หรือไม่? ว่าการคิดลบแบบนั้นเป็นการปิดกั้นโอกาสตัวเองที่จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ไปในตัว เพราะมันมีงานที่สามารถทำให้คนมีรายได้ โดยไม่ต้องออกไปทำงานประจำทุกวัน ไม่ต้องเปิดร้านอะไร ไม่ต้องบอกใคร ๆ ว่าทำอะไรอยู่ ดูเหมือนจะว่างมาก จนบางคนคิดว่าเป็นคนตกงาน ไม่มีงานทำไปเลยก็มี แต่ภายนอกที่เราเห็นเขาเหมือนไม่ได้ทำอะไรนั้น แต่ความจริงแล้วใครจะรู้ว่ามีงานที่ทำได้ โดยไม่ต้องป่าวประกาศบอกใคร ลองมาดูไอเดียเหล่านี้เป็นตัวอย่างกันเลย

9 ธุรกิจ รวยจริงแต่ไม่ค่อยมีคนรู้

1. ขายผลงานศิลปะ ออนไลน์

งานศิลปะ ไม่ได้มีเพียงภาพเขียน รูปปั้น ที่จับต้องได้เท่านั้น หากแต่ยังสามารถทำขายออนไลน์ได้ด้วย อย่างที่เราเห็นมีช่วงที่ NFT โด่งดังในช่วงแรก ก็ทำให้คนหันมาสนใจงานศิลปะออนไลน์อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่จริง ๆ แล้วงานศิลปะออนไลน์มีมานานแล้ว เช่น ภาพถ่าย วีดีโอ เสียง ภาพกราฟฟิก ภาพวาด ที่ขายผ่านเว็บไซต์ดังอย่าง Shutter stock หรือการออกแบบฟอนต์ให้คนซื้อไปใช้ในงานของตัวเองก็มี งานเหล่านี้เป็นงานที่อาศัยความสามารถ ความพยายาม และใช้เวลาอยู่พอสมควร แต่เมื่อทำออกไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ก็เปรียบเสมือนเป็น Passive Income เข้ามา แม้ว่าจะไม่ได้ทำงานอยู่ก็ตาม

2. รับค่าลิขสิทธิ์จากผลงานตัวเอง

งานลิขสิทธิ์เป็นอีกงานหนึ่งที่มีมาเนิ่นนาน เราจะเห็นได้จาก นักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง ที่ได้รับค่าลิขสิทธิ์แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแล้ว อย่างที่เห็นกันโด่งดังก็คือ เพลง All I Want for Christmas Is You ของ Mariah Carey ที่ได้รับค่าดูจากช่อง Youtube และค่าลิขสิทธิ์จากการร้องและเปิดเพลงนี้อยู่ในทุก ๆ ปี

ถึงตัวอย่างนี้จะดูมากไปหน่อย แต่เมื่อเทียบกับผลงานอื่น ๆ ด้วยก็สามารถทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนเลยทีเดียว หรือยกตัวอย่างงานเขียนต่าง ๆ ที่สามารถทำเงินได้เป็นระยะ แม้ว่าจะเขียนเสร็จมานานแล้วก็ตาม รวมไปถึงเสียงต่าง ๆ เช่น เสียงเอฟเฟกส์ เสียงดนตรี ทำนอง รวมไปถึงงานศิลปะที่สามารถนำไปใช้ได้หลาย ๆ งานก็เช่นกัน

3. เป็นฟรีแลนส์ รับงานเองจากที่บ้าน

งานแบบนี้ไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านก็ได้ เพราะยิ่งการทำงานผ่านออนไลน์ ก็เหมือนการ work from home ในยุคโควิดช่วงที่ผ่านมา เพียงแต่งานฟรีแลนซ์นั้นไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศเป็นประจำก็ได้ อย่างเช่น งานทำกราฟฟิก งานเขียน และงานอื่น ๆ ที่สามารถรับงาน ส่งงาน ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ แบบนี้เพื่อนบ้านก็จะไม่เห็นคุณออกไปทำงานเลย แต่ก็มีรายรับอยู่เสมอ เพราะทำงานอยู่ที่บ้าน

4. มีเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเป็นของตัวเอง

เว็บไซต์ที่ทำแบบนี้จะสามารถรับรายได้ได้จากการที่มีคนเข้ามาดู ทำให้มีค่าโฆษณาทั้งจาก Google และการซื้อพื้นที่โฆษณาโดยตรง รวมไปถึงการให้ทำเนื้อหาโฆษณาในเว็บไซต์ได้ด้วย นอกเหนือจากนี้ยังสามารถทำ Affiliate ซึ่งเป็นการใช้ลิงค์ของสินค้าแปะไว้ที่เว็บ และจะได้คอมมิชชั่นเมื่อมีคนคลิกลิงค์นั้นของเราเข้าไปซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ซึ่งจะมีหลากหลายสินค้าบริการเลยที่เดียว ทั้งสินค้าทั่วไป การท่องเที่ยว การจองที่พัก เป็นต้น

5. ขายของออนไลน์แบบที่ไม่ต้องจัดส่ง

อย่างที่รู้จักกันอย่างดรอปชิพ ผู้ที่ทำแบบนี้ไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้าเอง ไม่ต้องส่งสินค้าเอง เพียงแต่เลือกสินค้าจากที่หนึ่ง ไปโพสขาย เมื่อมีการซื้อเกิดขึ้นก็สั่งสินค้าไปส่งให้ โดยที่รอรับส่วนต่างเหมือนเป็นค่าประสานงาน หรืออย่างงานตัวแทนจำหน่าย บางที่ไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้าเองไม่ต้องส่งเอง เหมือนเป็นผู้ทำการตลาดให้ทางเจ้าของสินค้ามีช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้น

โดยจะแบ่งให้เป็นส่วนต่างสินค้า หรือค่าคอมมิชชั่นนั่นเอง อีกอย่างที่อาจจะสามารถเชื่อมโยงกับงานศิลปะได้ ก็มี POD หรือเรียกเต็ม ๆว่า Print on Demand ซึ่งจะเป็นการออกแบบผลงานผ่านทางเว็บไซต์ แล้วมีระบบผลิต และจัดส่งให้เมื่อมีการสั่งซื้อ แม้แต่งานเขียน หนังสือภาพ ก็สามารถทำได้เช่นกัน แบบนี้ก็ขายของได้แบบที่ไม่ต้องออกไปไหนเลยก็ได้

6. Influencer

งานนี้ช่วงแรก ๆ คนยังไม่รู้จัก ก็เรียกได้ว่าเป็นงานที่รวยเงียบก็ได้ เพราะเหมือนวันๆก็ไม่ต้องทำอะไร แค่ถ่ายตัวเองทำนั่นทำนี่ ใส่ของสวยๆแพงๆ ไปเที่ยว ไปกิน แต่หลังจากนั้นมา คนก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้นแล้วว่า สิ่งเหล่านั้นคือการทำงาน แม้ว่าภาพที่ออกไปจะดูสวยหรู มีความสุข แต่เบื้องหลังเป็นการทำงานอย่างหนักหน่วงและคิดวางแผนมาอย่างดีแล้ว

โดยจะมีรายได้จากสินค้า บริการที่ไปรีวิวไว้นั่นเอง ตอนนี้อาจจะเรียกว่าเป็นงานที่รวยเงียบไม่ค่อยได้แล้วเพราะคนเริ่มรู้จักกันเยอะ แต่ก็ยังสามารถใช้ได้กับคนบางกลุ่มที่ไม่รู้ว่าเราเป็นอินฟลูเอนเซอร์เช่นกัน ซึ่งก็ยังคงคอนเซ็ปต์ที่ว่า ไม่ได้ออกไปทำงาน ดูไม่เหมือนว่าทำงานอยู่เลย แต่มีเงินใช้นะ

7. เปิดธุรกิจสินค้าบริการอัตโนมัติ

ส่วนนี้อาจจะต้องออกจากบ้านก็จริง แต่ก็ไม่ได้จำเป็นต้องออกทุกวัน หรือออกไปทำงานทั้งวัน อย่างธุรกิจตู้น้ำหยอดเหรียญ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตู้ขนม และเครื่องอื่น ๆ อัตโนมัติ เป็นอะไรที่ผู้ซื้อไม่เห็นผู้ขายเลย ยิ่งเดี๋ยวนี้บางอย่างไม่จำเป็นต้องใช้เงิน แต่ใช้เป็นแอพพลิเคชั่นแทน ก็จะได้รับเงินจากระบบโดยตรง การสั่งสินค้าไปลงตู้ก็สั่งจากแอพหรือทางบริษัทแฟรนไชส์ได้โดยตรงก็มีเช่นกัน

8. เปิดสอนออนไลน์

ส่วนนี้จะมีทั้งแบบทำแบรนด์กับผู้สอน คือทำให้คนสอนดังเพื่อมีคนมาเรียนมากๆ แต่ก็มีแบบที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักคนสอน แต่เน้นเนื้อหา ก็สามารถทำได้เช่นกัน งานนี้ไม่จำเป็นต้องออกไปไหนเลย เพราะการคิดหลักสูตร การสอน ก็ใช้สถานที่สงบเงียบที่บ้านก็เพียงพอแล้ว

ทั้งนี้ยังมีงานสอนที่อัดคลิปสอนไว้แล้ว ลงไว้ในเว็บไซต์ เมื่อมีคนสนใจก็จะคลิกเข้ามาซื้อคอร์สเรียน ก็ถือว่าเป็น Passive Income ได้อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถเปิดช่องยูทูป หรือทำพอตแคส สอนเพื่อเรียกคนมาซื้อคอร์สเรียน และยังได้ค่าดูจากยูทูปได้ด้วย

9. เป็นนักลงทุน

เป็นงานที่หลายๆคนใฝ่ฝัน และหวังรวยจากการลงทุน แต่ที่หลายๆคนพลาดหรือยังทำไม่ได้ ก็คือไม่ได้ศึกษา ไม่มีประสบการณ์ที่มากพอที่จะทำ งานนี้จึงดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่จริงๆแล้วมีนักลงทุนแบบฟูลไทม์อยู่จริง ทั้งที่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้อย่างสม่ำเสมอ และสามารถร่ำรวยเติบโตมาได้ ส่วนนี้นอกจากจะเป็นนักเทรดแล้ว ยังมีการลงทุนอีกหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว

นี่เป็นเพียงตัวอย่างของการทำงานในแบบที่คนนอกมองแล้ว เหมือนไม่ได้ทำงานอะไรนะ แต่ทำไมมีเงิน บางคนก็ร่ำรวยขึ้นมา เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยาก และไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวหรือทำไม่ได้ เพราะหากเราเข้าใจ และศึกษา ก็สามารถทำได้เช่นกัน