BUSINESS [-24-] เริ่มต้นธุรกิจดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

เริ่มต้นธุรกิจดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

___________________________________________

การเริ่มทำธุรกิจนั้น แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสิ่งที่จะราบรื่นเสมอไป แต่เมื่อคิดที่จะทำแล้วก็ควรเริ่มลงมือคิดหรือทำอะไรซักอย่างเลย เพราะเวลาและโอกาสไม่เคยรอท่าใคร รวมถึงเมื่อทำ ๆ ไปแล้วเราจะได้รู้ว่า เราต้องเรียนรู้อีกมากแค่ไหน หรือต้องเรียนรู้ตลอดการทำ และต้องจัดการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาอย่างไม่ทันคาดคิด แต่นั่นเป็นสิ่งที่เราสามารถป้องกัน หรือลดการเกิดปัญหานั้น ๆ ได้ โดยการเริ่มต้นที่ดี อย่างที่เราได้ยินคำที่บอกกันมาเนิ่นนานว่า การเริ่มต้นที่ดี จะทำให้เรามีชัยไปกว่าครึ่ง ซึ่งการเริ่มต้นทำธุรกิจที่ดี เราควรมีการวางแผนที่ดี ดังนี้

1. ตั้งเป้าหมาย

การที่เราจะเริ่มทำธุรกิจอะไรสักอย่างนั้น เราต้องมีเป้าหมายเสมอ เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่เราต้องทำคืออะไร? เช่น หากเราจะทำธุรกิจก็จะมีเป้าหมายเป็น ยอดขาย การคืนทุน เป็นต้น ซึ่งเป้าหมายยิ่งชัดเจนเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น โดยส่วนมากแล้วการตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลข จะได้ผลที่ชัดเจน และวัดผลง่ายที่สุด เช่น “ยอดขาย 1 ล้านบาท ภายใน 31 ธ.ค. 2665 “ “คืนทุนจำนวน 5 หมื่นบาท ภายใน 2 เดือน ระบุวันที่...” “ต้องการยอดผู้ติดตาม 1 หมื่นคน ภายใน 3 เดือน ระบุวันที่...” ส่วนนี้จะทำให้เรารู้ว่าต้องติดตามผลเมื่อไหร่ และต้องติดตามผลอย่างไร?

นอกจากนี้ การตั้งเป้าหมาย ไม่ได้มีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น ยังมีเป้าหมายที่แยกตามระยะเวลา ไม่ว่าจะเป็น เป้าหมายระยะยาว หรือ เป้าหมายระยะสั้น ยกตัวอย่างเช่น เป้าหมายในอีก 10 ปีข้างหน้า เป้าหมาย 1 ปี เป้าหมายรายไตรมาส ซึ่งทุกเป้าหมายนั้นจะสอดคล้องกันไป และยังสามารถเป็นเป้าหมายระดับใหญ่ ระดับเล็ก อย่างที่เรียกได้ว่า ความสำเร็จในเป้าหมายเล็ก ๆ จะนำพาไปสู่ความสำเร็จในเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นได้

ดังนั้น เป้าหมายไม่จำเป็นต้องตั้งเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะตั้งหลาย ๆ เป้าหมาย เพื่อตอบโจทย์ในแต่ละส่วนได้ เช่น ยอดขาย เพื่อตอบโจทย์ด้านการเงิน และ ยอดผู้ติดตาม เพื่อตอบโจทย์ด้านการตลาด แต่ไม่ควรตั้งเป้าหมายมากจนเกินไปเพราะจะทำให้เราไม่หลุดโฟกัสได้ง่าย

2. การวางแผน

การวางแผนธุรกิจเป็นสิ่งที่ไม่ได้เรียกว่าควรทำ แต่เรียกว่า ต้องทำ เพื่อให้เราได้เห็นภาพรวมทุกอย่างก่อนที่จะเริ่มลงมือทำจริง ๆ ซึ่งความจริงแล้วเราต่างมีการวางแผนไว้ก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกหรือจดจำแล้วคิดในหัว ซึ่งหากเป็นงานเล็ก ๆ ที่ทำคนเดียว การคิดคำนวณในหัวก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำได้ เพราะรวดเร็วและเป็นสิ่งที่ทุก ๆ คนถนัดกัน แต่หากขึ้นชื่อว่าเป็นการทำธุรกิจแล้วนั้น การบันทึกลงไป เพื่อให้เห็นภาพรวมย่อมเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่า เพราะมีหลายอย่างที่ต้องทำ ปล่อยให้สมองของเราเอาไปคิดเรื่องอื่น ๆ แทนที่จะต้องมาจดจำแผนงานทั้งหมดจะดีกว่า การกางแผนออกมา นอกจากจะทำให้เห็นภาพรวมแล้ว ยังเห็นความก้าวหน้าของแต่ละส่วนงานได้อย่างดีอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้มีการทำแผนธุรกิจหลากหลาย ทั้งแบบง่ายและแบบละเอียด ซึ่งเราสามารถเลือกแผนตามที่เราต้องการได้เลย หรือจะนำหลาย ๆ แบบมาปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจหรือเข้ากับอุปนิสัยในการทำงานของเราก็ย่อมได้เช่นกัน และอย่าลืมนำแผนธุรกิจของเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในแผนชีวิตของตัเราด้วยนะ

3.  เตรียมรับมือ

การทำธุรกิจ แม้เป้าหมายของเราจะเป็นการประสบความสำเร็จ แต่เราจะต้องเจออีกหลายอย่างก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นได้ หรือแม้กระทั่งวันหนึ่งเราอาจจะไม่ได้ไปถึงตามที่คาดหวังไว้ก็เป็นได้ ดังนั้นเราจึงควรเตรียมตัวรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านดี หรือไม่ดีก็ตาม

• เตรียมรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น : การที่เรารู้ว่าการทำธุรกิจบางขั้นตอนอาจจะเกิดปัญหาใดขึ้นได้ ทำให้เราเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น เพื่อลดปัญหาได้ และอีกทางหนึ่งเราอาจจะต้องเตรียมรับมือกับสิ่งที่เราไม่สามารถป้องกันไว้ก่อนได้ แต่เราวางแผนรับมือไว้แล้ว เพื่อให้เราตั้งรับและแก้ปัญหานั้น ๆได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
• เตรียมรับมือกับความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้น : แน่นอนว่า อนาคตไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่การล้มเหลว ไม่ได้เป็นตอนจบในท้ายที่สุด เพราะเมื่อเราล้มเหลวในสิ่งหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าเราล้มเหลวในชีวิต บางคนไม่กล้าคิดถึงความล้มเหลว ทั้งที่เป็นสิ่งที่เราควรตั้งรับมือให้ได้อย่างดีเลยทีเดียว ว่าหากสิ่งที่ทำมาทั้งหมดล้มเหลวลงไปด้วยสาเหตุที่เกิดจากอะไรได้บ้าง ซึ่งเราอาจจะได้ใช้การรับมือนี้จริงๆก็ได้ หรือเมื่อเราเตรียมรับมือไปแล้ว มันอาจจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความล้มเหลวจริงๆในอนาคตก็เป็นไปได้เหมือนกัน
• เตรียมรับมือกับความสำเร็จที่ไม่เป็นไปตามคาด : ความสำเร็จมีหลายรูปแบบ ซึ่งเมื่อระยะเวลาผ่านไป เราอาจจะได้ความสำเร็จในแบบที่เราไม่ได้คาดหวังไว้แต่แรก อาจจะฉีกแนวไปเลย หรืออาจจะน้อยกว่าที่คาดไว้ก็เป็นไปได้เช่นกัน ดังนั้นแผนการทำธุรกิจของเราควรยืดหยุ่นและมีการรีวิวแผนอยู่อย่างเสมอ
• เตรียมรับมือกับความสำเร็จที่เป็นไปตามคาด​ : สำเร็จแล้วทำไมยังต้องเตรียมรับมืออีก? นี่ก็เป็นเหตุผลเดียวกับความล้มเหลว ว่าธุรกิจของเราสำเร็จ แต่ใช้ว่าชีวิตเราจะสิ้นสุดแล้ว เรายังสามารถทำอะไรได้อีก เช่น การเตรียมขยายกิจการ การเตรียมส่งต่อธุรกิจ การเตรียมออกมาพักผ่อน หรือการเตรียมเป้าหมายถัดไป เป็นต้น

ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ สิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลยก็คือ การวางแผน เหมือนเป็นการดูเส้นทางก่อนที่จะขับรถไปยังจุดหมาย แน่นอนว่าเราจะได้เลือกเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับเรา หากไม่ได้สนใจดูแล้วเดินทางเลย ก็อาจจะเจอสิ่งไม่คาดคิดได้ ดังนั้น การทำธุรกิจก็ควรมีการวางแผนไว้ก่อนเริ่มต้นเช่นกัน