TIGHTEN YOUR BELT [-3-] 3 วิธี มีเก็บแบบชนะเงินเฟ้อ

date_range 14 ธ.ค. 2022
visibility 434 views

 

3 วิธี มีเก็บแบบชนะเงินเฟ้อ

___________________________________________

เราอยู่ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงขึ้นทุกวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนการที่สิ่งของมีราคาที่แพงมากขึ้น เราเรียกสภาวะนี้ว่า "เงินเฟ้อ" ซึ่งเงินเฟ้อยังเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันของเราอยู่ตลอด แต่หลายคนก็มักจะมองข้ามปัญหานี้ ซึ่งการที่ของแพงขึ้นเรื่อย ๆ นี้ก็อาจจะเราไม่มีเงินเก็บสำหรับใช้ในอนาคต ดังนั้น วันนี้เราจึงมี 3 วิธีเก็บเงินแบบรู้ทันเงินเฟ้อ ดังนี้

1. แบ่งเก็บในรูปแบบของทองคำ

เป็นเรื่องที่คลาสสิคมาก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยการลงทุนในสินทรัพย์ทองคำก็ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนหลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะทองเป็นสิ่งที่สามารถใช้แทนสกุลเงินได้ทุกประเทศ และที่สำคัญราคาทองคำที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากสภาวะเงินเฟ้อด้วย ยิ่งของแพง ราคาทองคำก็จะแพงตามด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้การันตีว่าราคาจะขึ้นตลอดไหม แต่ก็สามารถทำให้เราอุ่นใจได้เลยว่า ถ้าค่าเงินต่ำลง ค่าทองก็จะสูงขึ้นแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนทอง 1 บาท ราคา 3 พันบาท ตอนนี้ ทอง 1 บาท เท่าเดิม แต่ราคา 2 หมื่นกว่าบาทแล้ว

ลงทุนทอง

2. แบ่งเก็บในรูปแบบของที่ดิน

ที่ดิน เป็นอีกหนึ่งทรัพย์สินที่คนมีเงินก้อนมักจะซื้อที่ดินเก็บไว้ เพราะสามารถขายต่อได้ในราคาที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อน เมื่อเกิดสภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของแพงขึ้น ที่ดินก็ย่อมแพงขึ้นด้วย หากต้องการเงินก็ขาย ไม่ต้องการ ก็ปล่อยให้เช่า หรือไว้อยู่อาศัยเอง สามารถแบ่งเป็นมรดกตกทอดต่อไปได้ ทั้งนี้ก็ต้องคำนึงถึงทำเลที่ตั้งด้วย

3. ลงทุนในหุ้น หรือกองทุน ที่ให้เงินปันผล

การลงทุนในหุ้นหรือกองทุนนั้น เราจะมีความเสี่ยงในเรื่องของกำไร การขาดทุนจากราคาขึ้นลงอยู่แล้ว แต่การเลือกลงทุนในตัวที่ให้เงินปันผลด้วย จะช่วยลดความสี่ยงด้านราคา และยังสามารถเป็นเงินบำนาญในอนาคตได้อีกด้วย หากยอดเงินมาก ก็สามารถช่วยเรื่องค่าใช้ จ่ายในอนาคตได้ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าท่องเที่ยว อาจจะแบ่งมาจ่ายได้ปีละ 1-2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ควรเลือกกองทุนหรือหุ้น ที่เราศึกษามาเป็นอย่างดี ทั้งกิจการและความมั่นคงด้วย

การลงทุนหุ้น หรือกองทุน

3 วิธี นี้เป็นเพียงวิธีเก็บเงินเบื้องต้น ที่ทำกันมาช้าแล้ว และยังคงได้ผลดีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ เราควรศึกษาและก้าวให้ทันตามโลก ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพื่อหาโอกาสให้มากขึ้นด้วย เพราะวิธีที่ใช้ได้วันนี้ วันหน้าอาจจะใช้ไม่ได้แล้ว และอาจจะมีวิธีอื่น ๆ มากขึ้นอีกในอนาคต

 

น่าสนใจ

RELATED NEWS