Mutual Fund [-3-] การเลือกกองทุน เพื่อสู้สภาวะเงินเฟ้อ

date_range 8 ธ.ค. 2022
visibility 93 views

 

การเลือกกองทุน เพื่อสู้สภาวะเงินเฟ้อ

________________________________________________

จากสถานการณ์ที่ผ่านมา โลกของเราประสบปัญหามากมายทั้งเรื่องของโรคระบาดที่ใกล้ตัวเรา ไปจนถึงสภาวะสงครามในต่างประเทศที่มองดูเผิน ๆ อาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวเรา แต่ความจริงแล้ว คุณรู้หรือไม่? ว่าถึงแม้สงครามจะเกิดไกลจากประเทศไทยเรามาก แต่มันก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเราโดยตรงเช่นกัน ซึ่งตัวอย่างเหตุการณ์ใหญ่ ๆ เหล่านี้ ต่างก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสภาวะเงินเฟ้อขึ้นมาได้ เนื่องจากโรคระบาดนั้นทำให้ผู้คนต้องกักตัวในช่วงเวลาที่ผ่านมาทำให้เกิดการขาดแรงงาน และทำให้ผู้คนต่างก็ต้องการหาซื้อสินค้าต่าง ๆ เพื่ออุปโภคบริโภค ทำให้สินค้าขาดตลาดอยู่เป็นบางช่วง

ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็มักจะเกิดการขึ้นราคาสินค้าที่มีอยู่อย่างจำกัด และเมื่อคลายปลดล็อค ผู้คนก็ต่างอยากจะผ่อนคลายจากการกักตัวจึงเริ่มออกจากบ้านมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ในขณะที่สินค้าและบริการนั้นยังไม่พร้อมเต็มที่ที่จะรองรับได้ และสภาวะสงครามย่อมทำให้เกิดการขาดแคลน เพราะเมื่อเราต้องนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้น ๆ การขนส่งก็ยิ่งยากลำบากมากขึ้น ทำให้ราคาแพงขึ้น จนเกิดเป็นภาวะเงินเฟ้อที่สามารถประเมินกันได้อย่างต่ำประมาณ 3% แต่ความจริงแล้วช่วงที่เกิดวิกฤติย่อมต้องมากกว่าที่ประเมินไว้อย่างแน่นอน สำหรับใครที่กำลังจะเลือกลงทุนในกองทุน ช่วงนี้ก็ให้ประเมินปัจจัยต่าง ๆ ให้รอบคอบ เพื่อลดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ

ในปัจจุบันมีตัวเลือกการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมากมาย อย่างที่เราพอจะทราบกันง่าย ๆ ก็คือ การถือครองสินทรัพย์ที่จะมีมูลค่ามากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เช่น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น แต่มีอีกหนึ่งการลงทุนที่น่าจะทำได้ง่ายและลดความเสี่ยงด้วย ก็คือ การลงทุนในกองทุนนั่นเอง ซึ่งทุกวันนี้ก็พอจะมีกองทุนที่ช่วยประคองปัญหาเรื่องของเงินเฟ้ออยู่บ้าง อย่างเช่น ช่วงโรคระบาดที่ผ่านมาทางรัฐบาลก็จะมี การออกพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ ขึ้นมา เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอด นอกจากผลตอบแทนจะเป็นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ยังมีส่วนชดเชยเงินเฟ้อในดอกเบี้ย รวมถึงยังมีส่วนชดเชยเงินเฟ้นจากเงินต้นอีกด้วย

ซึ่งจะคิดจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าหน้าพันธบัตรที่ได้ แต่หากช่วงนั้นอัตราเงินเฟ้อต่ำลง ก็จะได้ชดเชยตามที่ระบุหน้าพันธบัตร เหมือนเป็นการการันตีขั้นต่ำไว้ให้ด้วย ซึ่งนักลงทุนจะได้รับการปกป้องเงินต้นที่ไม่ลดมูลค่าลงเมื่อเวลาผ่านไป พันธบัตรชดเชยเงินต้นนี้ ประชาชนทั่วไปจะไม่สามารถซื้อเองได้โดยตรง เนื่องจากมีการซื้อขายในปริมาณมาก แต่ก็มีอีกหนึ่งช่องทางให้เลือก ก็คือ กองทุน ที่นำเงินไปลงทุนกับพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อนั่นเอง ซึ่งผู้ลงทุนสามารถหาข้อมูลเงื่อนไขจากกองทุนต่าง ๆ ที่ระบุไว้ได้  

1. กองทุนที่นำเงินทุนไปลงทุนในสินทรัพย์

หากเรามองการนำเงินไปลงทุนในทองคำ อสังหาริมทรัพย์ อาจจะต้องใช้เงินจำนวนมาก แถมยังต้องศึกษาราคา ข้อมูล ทำเล อีกมาก เพื่อไม่ให้เกิดการนำเงินไปลงผิดที่ผิดทาง แทนที่จะได้ช่วยชดเชยเงินเฟ้อ กลับกลายเป็นมูลค่าสินทรัพย์ลดลงก็ได้ ดังนั้น อีกวิธีหนึ่งที่ดีที่สุด ก็คือ เราสามารถนำเงินไปลงทุนใน กองทุนที่นำเงินทุนไปลงทุนในสินทรัพย์เหล่านั้นแทน อย่างเช่น กองทุนที่นำเงินไปลงใน ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น นอกจากมูลค่าที่สูงขึ้นของสินทรัพย์เหล่านั้นแล้ว ยังมีส่วนทำให้เกิดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อลดลงด้วย การลงทุนในกองทุนอย่างอสังหาริมทรัพย์บางอย่างก็จะทำให้เราได้รับผลตอบแทนเป็นปันผลอย่างสม่ำเสมออีกด้วย เช่น ค่าเช่าที่ดิน ห้างสรรพสินค้า ที่รายได้จากธุรกิจเหล่านี้มักจะมาจากค่าเช่า ทำให้ได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ เป็นต้น

2. กองทุนที่นำเงินไปลงทุนในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้ในทุกช่วง

นอกเหนือจากนี้แล้วยังสามารถเลือก กองทุนที่นำเงินไปลงทุนในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้ในทุกช่วง แม้แต่ช่วงสภาวะวิกฤติ ได้แก่ ธุรกิจการแพทย์ กลุ่มสุขภาพ สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าจำเป็น ไฟฟ้า ประปา น้ำมัน ซึ่งปรับราคาตามได้ง่าย หรือเป็นสินค้าบริการที่แทบทุกคนต้องใช้ ส่วนนี้ก็สามารถช่วยทำให้เงินต้นของเราปลอดภัยและอาจมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากแปรผันตรงกับเงินเฟ้ออีกด้วย

นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่ง ที่เป็นการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเท่านั้น โดยเราสามารถเลือกลงทุนได้ตามเงินทุนที่เรามี หากมีมากก็ลงมาก หรือ มีน้อยก็ลงน้อยได้ ซึ่งผู้ที่สนใจการลงทุนเพื่อวัตถุประสงค์นี้ ก็ควรที่จะศึกษาแต่ละอย่างด้วยตัวเอง ทั้งจากหนังสือชี้ชวน และสอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่สามารถให้คำแนะนำได้ รวมถึงการลงทุนในกองทุนนั้น ถือเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งเท่านั้น

ทั้งนี้นักลงทุนอาจมีการลงทุนอย่างอื่นตามความรู้หรือวัตถุประสงค์ของตนเอง ถือเป็นการจัดพอตการลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเอง โดยที่ไม่ลืมที่จะศึกษาทุกการลงทุนอย่างละเอียด และแน่นอนว่า สภาพคล่องย่อมต้องสำคัญ การลงทุนในกองทุนเหล่านี้จึงไม่ได้แนะนำให้เป็นการลงทุน 100% เพียงแต่สามารถจัดพอตการลงทุนให้นำส่วนหนึ่งของการลงทุนมาลงเพื่อชดเชยเงินเฟ้อ หรือจริง ๆ แล้วเรียกได้ว่าเป็นการรักษามูลค่าของเงินต้นในระยะยาวได้เป็นอย่างดี จึงควรแบ่งมาลงทุนส่วนนี้บ้าง

โดยสัดส่วนก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการทั้งระยะสั้นและระยะยาวของผู้ลงทุนเอง เพราะเงินเฟ้อ อยู่กับเราตลอดเวลา อยู่กับเราทุกการจับจ่าย ทุกการดำเนินชีวิต ซึ่งแม้ว่าเราอาจจะมองไม่เห็น หรือไม่ทันสังเกต แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงและจะถือว่าความเสี่ยงทางการเงินที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใดเลย

 

น่าสนใจ

RELATED NEWS