Stock [-16-] ซื้อหุ้น แบบเน้นคุณค่า เพราะเราไม่ได้ซื้อแค่หุ้น แต่เราซื้อกิจการด้วย

ซื้อหุ้น แบบเน้นคุณค่า เพราะเราไม่ได้ซื้อแค่หุ้น แต่เราซื้อกิจการด้วย

___________________________________________

นักลงทุนหลายคนมักจะ ซื้อหุ้น แบบเน้นคุณค่า เสมือนว่าเราได้เข้าไปร่วมลงทุนแบบระยะยาวกับกิจการนั้น ๆ ซึ่งแน่นอนว่าก่อนที่เราจะตัดสินใจลงทุน เราต้องศึกษาธุรกิจ กิจการ การดำเนินการ แนวโน้มการเติบโต ความเสี่ยงต่าง ๆ ของบริษัท การบริหารจัดการงานต่าง ๆ แทบจะทั้งหมด จึงไม่แปลกที่จะคิดว่า เราเหมือนเข้าไปซื้อกิจการนี้แล้ว หรือเราเป็นส่วนหนึ่งของกิจการนี้ การซื้อหุ้นแบบเน้นคุณค่า แม้ว่าเราจะสามารถขายออกได้ตลอด แต่นี่ไม่ใช่การซื้อขายหุ้น เพื่อเก็งกำไร ดังนั้น นักลงทุนมือใหม่จึงควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนลงทุน ว่าทำไมการเลือกลงทุนแบบนี้จึงต้องศึกษาข้อมูลเยอะ ๆ

โดยทั่วไปนักลงทุนที่เลือก ซื้อหุ้น แบบเน้นคุณค่าระยะยาว สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1. นักลงทุนที่พยายามซื้อขายหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงโดยใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
2. นักลงทุนที่พยายามที่จะค้นหาหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับการประเมินมูลค่าปัจจุบัน
3. นักลงทุนที่ใช้วิธีการแบบผสมผสานที่แบบกลุ่มที่ 1 และ 2

หุ้นคุณค่า คืออะไร?

หุ้นในตลาดส่วนใหญ่ แบ่งออกเป็นหุ้นคุณค่าและหุ้นเติบโต  ซึ่งโดยทั่วไป หุ้นคุณค่า (Value Stock) จะมีราคาหรือมูลค่าต่ำกว่าราคาที่เหมาะสมตามทฤษฎี เป็นหุ้นที่เน้นอัตราปันผลสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด แต่มักจะมีผลการดำเนินงานเติบโตไม่โดดเด่น ทำให้คนตีราคาของหุ้นตัวนี้ต่ำมากจนไม่สนใจซื้อขายกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป นักลงทุนในตลาดมองเห็นคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในตัวหุ้น ก็จะเข้าซื้อหุ้น ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต เรียกง่าย ๆ ก็คือ การ ซื้อหุ้น แบบเน้นคุณค่า จะเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวมากกว่า เน้นเงินปันผลระหว่างลงทุน (Dividend) ในทางกลับกัน หุ้นเติบโต (Growth Stock) จะเหมาะกับการลงทุนระยะสั้น เน้นการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา (Capital Gain)

หุ้นบางตัวอาจจะมีคุณสมบัติทั้งสองอย่างหรือเหมาะสมกับมูลค่าเฉลี่ยหรืออัตราการเติบโต ดังนั้นการเลือกหุ้นคุณค่า จึงขึ้นอยู่กับลักษณะที่เกี่ยวข้องบางประการ โดยทั่วไปหุ้นคุณค่าจะมีลักษณะดังนี้

• เป็นหุ้นของกลุ่มธุรกิจที่เติบโตเต็มที่
• มีอัตราการเติบโตที่มั่นคง (แต่ไม่น่าตื่นเต้น)
• รายได้ที่ค่อนข้างคงที่
• หุ้นมูลค่าส่วนใหญ่จ่ายเงินปันผล แต่ไม่ใช่กฎตายตัว

ยกตัวอย่างเช่น บริษัทจัดส่งพัสดุภัณฑ์ยักษ์ใหญ่อย่าง FedEx (NYSE:FDX) เป็นหุ้นที่มีมูลค่า แต่ไม่ได้รับความนิยมจาก Wall Street ในขณะที่ความท้าทายการลงทุนระยะสั้นของ Tesla ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว (NASDAQ:TSLA) ยังเป็นที่น่าสนใจและเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของหุ้นเติบโต

ในทางกลับกัน หุ้นบางตัวสามารถจัดอยู่ในประเภทใดก็ได้ ตัวอย่างเช่น บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple (NASDAQ:AAPL) และ Microsoft (NASDAQ:MSFT)

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ดีต้องดูมูลค่าที่แท้จริงของราคาหุ้นว่าเท่าไหร่? ควรเลือกเข้าซื้อในจังหวะที่ราคาต่ำกว่า เพื่อให้เกิดกำไรตั้งแต่จังหวะที่เริ่มซื้อเลย ต่อมาเป็นเรื่องของการปันผล ถ้ากิจการดี การปันผลก็จะได้รับอย่างต่อเนื่องตามที่ตกลง หากกิจการไม่ดี ก็อาจจะเจอประกาศงดจ่ายปันผล ซึ่งแน่นอนว่าเหล่านักลงทุนในหุ้นนั้น ๆ ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ เลย แต่สุดท้าย ในอนาคต เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่ต้องการขายก็จะได้เงินก้อนจากกำไรของราคาที่สูงขึ้นด้วย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ การเล่นหุ้นแบบนี้คุณค่า ก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้แบบยืนต้น คือ ซื้อตอนเป็นเมล็ดหรือต้นอ่อนที่ราคาถูกกว่าซื้อต้นใหญ่ เก็บเกี่ยวผลผลิตระหว่างทางอย่างปันผล และสุดท้ายก็สามาถตัดต้นไม้หรือขุดทั้งต้นขายได้เงินเป็นกอบเป็นกำ