Cryptocurrency [-4-] คริปโต 8 ประเภท ที่ควรรู้

date_range 20 ธ.ค. 2022
visibility 139 views

 

คริปโต 8 ประเภท ที่ควรรู้

___________________________________________

หากพูดถึงคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หลายคนคงจะนึกถึงเหรียญดิจิทัลที่มีมากมายบนกระดาน ซึ่งแต่ละเหรียญก็จะมีเทคโนโลยี แหล่งที่มา เจ้าของ และจุดประสงค์ของการสร้างเหรียญที่แตกต่างกันไป แต่คุณรู้หรือไม่? ว่าแต่ละเหรียญนั้นยังถูกแบ่งเป็นกลุ่มประเภทต่าง ๆ ได้ด้วยนะ ซึ่งจะมีกลุ่มประเภทใดบ้าง มาดูกันเลย

1. CURRENCY

เริ่มต้นด้วยกลุ่มเหรียญแรกที่หลายคงต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นกลุ่มของเหรียญที่ทุกคนรู้จักกันดีเลยทีเดียว นั่นก็คือ BITCOIN (BTC) ซึ่งเหรียญดิจิทัลแรกของโลกที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด มีวัตถุประสงค์ในการสร้างก็เพื่อแลกเปลี่ยน ซื้อขายสินค้าแทนเงินตราหรือสกุลเงินต่าง ๆ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น ธนาคาร หรือหน่วยงานอื่น ๆ

นอกจาก BTC แล้วก็ยังมีเหรียญทางเลือก (ALTCOIN) อื่น ๆ ด้วย เช่น BITCOIN CASH (BCH), LITECOIN (LTC), DOT และ DAI เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็น “กลุ่มรักษามูลค่า” ที่สามารถเพิ่มกำลังซื้อได้เมื่อเวลาผ่านไป และเป็นเหรียญที่มีอุปทานอย่างจำกัด อย่างเช่น BITCOIN (BTC) และ BITCOIN CASH (BCH) ก็จำกัดไว้เพียง 21 ล้านเหรียญ หรือ DOT ที่จำกัดไว้ที่ หนึ่งพันกว่าล้านเหรียญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีความปลอดภัยสูง

CURRENCY

2. SMART CONTRACT

สัญญาอัจฉริยะ (SMART CONTRACT) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ดำเนินการอัตโนมัติ เพื่อจัดเก็บเงื่อนไขของสัญญาโดยใช้บล็อกเชน เป็นกระบวนการทางดิจิทัลที่กำหนดขั้นตอนแบบอัตโนมัติไว้ก่อนแบบที่ไม่ต้องอาศัยตัวกลาง เมื่อมีการดำเนินการตรงตามเงื่อนไขที่ฝังอยู่ในสัญญาตามขั้นตอนนั้น โปรแกรมจะดำเนินการเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหรียญที่เป็น SMART CONTRACT จะมีทั้งแบบจำกัดอุปทานและไม่จำกัดอุปทานด้วย เช่น ETHEREUM (ETH) ไม่จำกัดอุปทาน, DOT จำกัดที่ 1 พันกว่าล้านเหรียญ และ VET จำกัดที่ 8 หมื่นกว่าล้านเหรียญ เป็นต้น

ซึ่งเทคโนโลนี้ ทำให้นักพัฒนาสร้างแพลตฟอร์ม DEFI ขึ้นมา และยังสามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DECENTRALIZED APPLICATION: DAPP) บนเครือข่ายเหล่านี้ได้อีกด้วย

DEFI คืออะไร?

DECENTRALIZED FINANCE (DEFI) คือ การทำธุรกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ ที่ไม่ต้องมีตัวกลางซึ่งมักสร้างขึ้นบนบล็อกเชนที่มี SMART CONTRACT จึงจะถูกจัดกลุ่มเป็น TOKEN หรือเหรียญที่ไม่ได้มีบล็อกเชนเป็นของตัวเอง แต่สร้างขึ้นบนระบบ BLOCKCHAIN ของแพลตฟอร์มอื่น ๆ ยกตัวอย่าง เหรียญ DEFI เช่น UNI, CAKE และ COMP โดยแต่ละเหรียญจะมีการใช้งานและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป และมักจะตั้งชื่อตามเครือข่ายบล็อกเชนที่เป็นผู้ออกเหรียญ แต่จะสามารถใช้งานได้บนแพลตฟอร์มของผู้ออกเหรียญหรือแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

DEFI

3. ORACEL

เป็นอีกหนึ่งประเภทเหรียญที่น่าจับตามอง เพราะทำให้โลกของ BLOCKCHAIN ได้มีส่วนในโลกจริง เหมือนเป็นสิ่งที่จับต้องมากขึ้น เพราะ ORACLE ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างข้อมูลภายในบล็อกเชน (ON-CHAIN) กับข้อมูลภายนอกเครือข่าย (OFF-CHAIN) ทำให้สามารถนำข้อมูลต่าง ๆ ไปใช้ต่อได้ เช่น สภาพอากาศ จำนวนผลโหวต การเงิน สาธารณสุข เป็นต้น ซึ่งเหรียญในกลุ่ม ORACLE ที่น่าจับตาในปัจจุบัน คือ CHAINLINK (LINK), BAND PROTOCOL (BAND) BAND

4. MEME

เป็นเหรียญที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก MEME ที่กำลังเป็นกระแสร้อนแรงบนโลกออนไลน์ และเรื่องตลกขบขันทางอินเทอร์เน็ต เรียกได้ว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อความสนุกโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเหรียญ MEME ที่โด่งดังมากเลยก็หนีไม่พ้น DOGECOIN (DOGE)  มีแรงบันดาลใจจาก DOGE MEME ที่เป็น VIRAL แม้ว่าการสร้างออกมาจะเป็นเพื่อการล้อเลียนและเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่ก็ได้รับความนิยมจนทำให้มีราคาช่วงหนึ่งพุ่งทะยานไปเลยทีเดียว แต่เหรียญกลุ่มนี้ค่อนข้างจะมีความผันผวนมาก เพราะเหมือนเป็นเหรียญที่สร้างจากกระแส ความฮิต เหมือนแฟชั่นที่มาไวไปไว ราคาจึงขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ค่อยสนปัจจัยพื้นฐานอะไรเท่าไหร่ แล้วก็ยังมีเหรียญอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น SHIBA INU (SHIB), DOGELON MARS (ELON), DOGS OF ELON (DOE) เป็นต้น

DOE

5. GAME หรือ GAMEFI

เป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในเกมหรือโลกเสมือนจริง (METAVERSE) ผู้ที่พัฒนาอาศัยเทคโนโลยีนี้ในการออกแบบเกม และสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้เล่น โดยเหรียญเกมจะช่วยให้สามารถซื้อไอเท็มที่สำคัญต่าง ๆ ในเกมได้ หรือจะขายบนกระดาน EXCHANGE ก็ได้เช่นกัน และเวลาเล่นเกมจะมีรางวัลต่าง ๆ โดยรางวัลที่จะได้รับจากการเล่นเกมก็จะเป็นเหรียญของเกมนั้น ๆ หรืออาจจะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ที่สามารถใช้ในเกมได้ หรือบางอย่างสามารถขายแลกเหรียญได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะทำให้เราสนุกไปกับเกมได้แล้ว ยังทำให้การเล่นเกมไม่ใช่แค่เสียค่าไฟ ค่าเน็ต แต่เรายังสามารถสร้างรายได้จากเกมได้ด้วย ยกตัวอย่างของเหรียญเกม เช่น ILV, SLP และ MANA เป็นต้น

GAME หรือ GAMEFI

6. STABLECOIN

เหรียญกลุ่มนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำให้มูลค่าของเหรียญมีเสถียรภาพมากขึ้น ด้วยการอ้างอิงกับมูลค่าของสินทรัพย์บางอย่าง เพื่อทำเป็นสกุลเงินดิจิทัล ทำให้เกิดเสถียรภาพ เพราะมีสินทรัพย์หรือค่าเงินจริงที่นำไปประกันไว้ จึงทำให้มีต้นทุนในการสร้างที่สูง แต่มีความโปร่งใส และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำ ยกตัวอย่างเหรียญ STABLECOIN เช่น USDT หรือ TETHER ที่อ้างอิงกับ TETHER RESERVE ที่รองรับด้วยสินทรัพย์หลาย ๆ ชนิด, TUSD โดยสินทรัพย์ที่อ้างอิงจะเป็นเงินที่สำรองไว้เก็บโดยธนาคารหรือบริษัทต่าง ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ และ DIGIX GOLD (DGX) โดยอ้างอิงที่ 1 DGX จะมีมูลค่าเท่ากับทองคำ 1 กรัม ซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ที่สิงคโปร์ เป็นต้น

7. VALUE TRANSFER

สุดท้ายเหรียญกลุ่มนี้สร้างมาเพื่อส่งต่อมูลค่า โดยจะส่งต่อผ่านอินเทอร์เน็ต มีความสามารถในการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ เช่น เหรียญ “XRP” (RIPPLE) เป็นสะพานเชื่อมต่อของสกุลเงิน FIAT ในส่งเงินข้ามประเทศ (คล้าย SWIFT เวลาที่เราต้องรับ-โอนเงิน ข้ามประเทศ)

น่าสนใจ

RELATED NEWS